Browse By

Monthly Archives: September 2025

แอสตัน วิลล่า ตกลงคว้าตัว เจดอน ซานโช่

ข่าวใหญ่ที่กลายเป็นกระแสในวงการฟุตบอลอังกฤษและยุโรปคือการที่ แอสตัน วิลล่า สามารถบรรลุข้อตกลงคว้าตัว เจดอน ซานโช่ ปีกตัวรุกชาวอังกฤษที่เคยสร้างชื่อกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การย้ายทีมครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนเส้นทางอาชีพของนักเตะเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการก้าวขึ้นมาเป็นทีมชั้นนำอย่างแท้จริงของวิลล่าภายใต้การนำของ อูไน เอเมรี กุนซือชาวสเปนผู้มากประสบการณ์ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วิลล่าได้พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาไม่ใช่แค่ทีมที่หวังเพียงอยู่รอดในพรีเมียร์ลีก แต่กำลังพัฒนาเพื่อเป็นทีมที่พร้อมลุ้นพื้นที่ยุโรป และการคว้าซานโช่ก็เป็นเครื่องยืนยันที่ชัดเจนถึงความทะเยอทะยานนั้น เหตุผลที่วิลล่าต้องการตัวเจดอน ซานโช่ แม้แอสตัน วิลล่าจะมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่การเพิ่มซานโช่เข้ามาในทีมก็มีหลายเหตุผลที่ทำให้ดีลนี้สมเหตุสมผล โปรไฟล์และเส้นทางอาชีพของเจดอน ซานโช่ ซานโช่เริ่มต้นอาชีพที่อะคาเดมีของวัตฟอร์ด ก่อนจะย้ายเข้าสู่ทีมเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทว่าเขาตัดสินใจออกไปสร้างโอกาสใหม่ที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เขาแจ้งเกิดเต็มตัวในบุนเดสลีกาด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่น จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดของยุโรป การกลับมาอังกฤษกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้จะไม่ประสบความสำเร็จเต็มที่ แต่ก็ทำให้เขาได้เรียนรู้ในลีกที่โหดหินที่สุดในโลก การย้ายมาวิลล่าในครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง บทบาทของซานโช่ในแท็กติกของอูไน เอเมรี เอเมรี เป็นกุนซือที่มีแนวทางการเล่นชัดเจน เน้นเกมรับที่รัดกุมและการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกที่รวดเร็ว

ใครคือคนที่เหมาะสมจะมารับตำแหน่งกุนซือ เลเวอร์คูเซ่น คนต่อไป?

การปลดกุนซืออย่าง เอริค เทน ฮาก ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น สโมสรที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและความทะเยอทะยานในเวทีบุนเดสลีกาและยุโรป คำถามใหญ่ที่ตามมาคือ “ใครคือคนที่จะเหมาะสมเข้ามารับตำแหน่งกุนซือคนต่อไป?” เพราะการเลือกผู้จัดการทีมไม่ใช่แค่การหาคนที่มีชื่อเสียง แต่ต้องเป็นผู้ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งแท็กติก ความสัมพันธ์กับนักเตะ และการพัฒนาสโมสรในระยะยาว 1. แนวคิดการเลือกกุนซือใหม่ เลเวอร์คูเซ่น ต้องมองหากุนซือที่ไม่เพียงแค่มีฝีมือ แต่ต้องมีคุณสมบัติดังนี้ นิยาม “ตัวตนฟุตบอล” ก่อนเลือกคน จุดเริ่มต้นไม่ใช่ “ใครว่างอยู่” แต่คือ “เราอยากเป็นทีมแบบไหน” นิยามให้ชัดก่อน แล้วจึงหา “โค้ชที่พาแนวคิดนี้ให้เกิดขึ้นได้จริง” แทนการไล่ตามชื่อชั้นเพียงอย่างเดียว พิมพ์เขียวแท็กติกที่ต่อยอดทันที กุนซือใหม่ควรถอดแบบได้ว่าพรุ่งนี้ลงซ้อมเขาจะทำอะไร สอดรับโครงสร้างสโมสรและผอ.กีฬา ความสำเร็จในเยอรมนีเกิดจาก “ระบบ” 2. ตัวเลือกที่มีชื่อเสียงในยุโรป 2.1 ซาบี้ อลอนโซ่ หนึ่งในชื่อที่ถูกพูดถึงบ่อยที่สุดคือ ซาบี้ อลอนโซ่ กุนซือหนุ่มไฟแรงที่พาเลเวอร์คูเซ่นประสบความสำเร็จในช่วงก่อนหน้านี้ และสร้างปรัชญาการเล่นที่สวยงาม

เอริค เทนฮาก ถูกเลเวอร์คูเซ่น ปลดออกจากตำแหน่ง

ล่าสุดหนึ่งในข่าวที่สร้างแรงสะเทือนในเวทีบุนเดสลีกาก็คือการที่ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ตัดสินใจปลด เอริค เทนฮาก ออกจากตำแหน่งเทรนเนอร์อย่างเป็นทางการ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความกดดันของฟุตบอลระดับสูง แต่ยังสะท้อนถึงทิศทางและความทะเยอทะยานของสโมสรเยอรมันทีมนี้ที่ต้องการประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง 1. จุดเริ่มต้นของเทน ฮากกับเลเวอร์คูเซ่น เอริค เทนฮาก เข้ามารับงานกับเลเวอร์คูเซ่นด้วยความ kỳ vọngสูง หลังจากสร้างชื่อเสียงในยุโรปกับอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เขาถูกมองว่าเป็นกุนซือที่มีสไตล์การทำทีมเน้นเกมรุกที่สร้างสรรค์ การพัฒนาเยาวชน และการเล่นที่เป็นระบบระเบียบ การมารับตำแหน่งในบุนเดสลีกาถูกมองว่าเป็นการยกระดับทั้งตัวเขาเองและสโมสร อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นที่ดูเหมือนสดใสกลับเต็มไปด้วยความท้าทาย เพราะลีกเยอรมันเต็มไปด้วยคู่แข่งที่แข็งแกร่ง ทั้งบาเยิร์น มิวนิค โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รวมถึงไลป์ซิก การที่เลเวอร์คูเซ่นตั้งเป้าหมายสูงทำให้แรงกดดันต่อกุนซือชาวดัตช์รายนี้ยิ่งทวีคูณ 2. ผลงานที่ไม่เป็นไปตามคาดหวัง แม้เทน ฮากจะพยายามนำแนวทางฟุตบอลบุกและการครองบอลเข้ามาใช้ แต่ผลงานในสนามกลับไม่ตอบโจทย์ที่สโมสรคาดหวังไว้ 1. ความไม่สม่ำเสมอในบุนเดสลีกา หนึ่งในปัญหาที่เด่นชัดคือ ความไม่แน่นอนของฟอร์มการเล่น เลเวอร์คูเซ่นในยุคเทน ฮากสามารถโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมเวลาพบทีมใหญ่ แต่กลับทำแต้มหล่นในเกมที่ควรชนะกับทีมเล็ก ผลลัพธ์แบบนี้ทำให้แต้มรวมในตารางไม่เพียงพอที่จะยืนระยะในการลุ้นแชมป์หรือแม้กระทั่งท็อปโฟร์อย่างมั่นคง

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ปิดดีล โยอัน วิสซ่า จากเบรนท์ฟอร์ด 55 ล้านปอนด์

หนึ่งในดีลใหญ่ที่สร้างกระแสได้มากในช่วงนี้คือการที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สามารถตกลงค่าตัว โยอัน วิสซ่า ศูนย์หน้าทีมชาติดีอาร์คองโกจาก เบรนท์ฟอร์ด ได้เป็นที่เรียบร้อย ตัวเลขปิดที่ 55 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าสูงสำหรับนักเตะที่ไม่ใช่สตาร์ระดับโลก แต่สะท้อนถึงศักยภาพและความสำคัญที่เขาจะเข้ามามีบทบาทกับ “สาลิกาดง” ดีลนี้ไม่ได้เป็นเพียงการซื้อผู้เล่นมาเพิ่ม แต่ยังสะท้อนถึงความทะเยอทะยานของนิวคาสเซิ่ลภายใต้เจ้าของใหม่ ที่ต้องการพัฒนาทีมอย่างต่อเนื่องเพื่อท้าทายพื้นที่ยุโรปและลุ้นความสำเร็จในอนาคต โปรไฟล์ของโยอัน วิสซ่า โยอัน วิสซ่า เกิดที่คองโกและย้ายมาเล่นฟุตบอลอาชีพในยุโรปตั้งแต่อายุน้อย เขาสร้างชื่อกับลอริยองต์ในลีกเอิง ก่อนที่เบรนท์ฟอร์ดจะดึงตัวมาร่วมทีมในปี 2021 จุดเด่นของเขาคือ ผลงานกับเบรนท์ฟอร์ดในพรีเมียร์ลีกทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับการยอมรับ แม้จะไม่ใช่ดาวซัลโวสูงสุด แต่ก็มีบทบาทสำคัญต่อการทำเกมรุกของทีม ทำไม นิวคาสเซิ่ล ถึงเลือกวิสซ่า? การเสริมกองหน้าคือโจทย์ใหญ่ของนิวคาสเซิ่ล เนื่องจาก ทำไมนิวคาสเซิ่ล ถึงเลือกวิสซ่า? บทนำ การย้ายทีมในพรีเมียร์ลีกอังกฤษมักมีเบื้องหลังที่ซ่อนอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแท็กติก แผนการสร้างทีม หรือแม้กระทั่งทิศทางธุรกิจของสโมสร และหนึ่งในดีลที่น่าสนใจที่สุดในตลาดล่าสุดคือการที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บรรลุข้อตกลงเรื่องการคว้าตัว จานลุยจิ ดอนนารุมม่า

ตลาดซื้อขาย ดอนนารุมม่า ในยุโรปไม่เคยขาดเรื่องราวที่สร้างความตื่นเต้น และหนึ่งในดีลที่กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่สุดในช่วงนี้คือการที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บรรลุข้อตกลงกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ในการคว้าตัว จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูทีมชาติอิตาลี ดีลนี้ไม่เพียงเป็นการเสริมทัพของทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์และอนาคตของทั้งสองสโมสร ดอนนารุมม่า: ผู้รักษาประตูที่เติบโตจากความคาดหวัง ดอนนารุมม่าถูกขนานนามว่าเป็น “เทพบุตรแห่งประตู” มาตั้งแต่ยังอายุเพียง 16 ปี เมื่อเขาประเดิมสนามให้เอซี มิลาน และกลายเป็นตัวหลักทันที ด้วยส่วนสูงเกือบสองเมตร ปฏิกิริยาอันยอดเยี่ยม และการเซฟที่เหนือชั้น เขาคือผู้สืบทอดตำแหน่งผู้รักษาประตูระดับตำนานของอิตาลีอย่าง จานลุยจิ บุฟฟ่อน การย้ายไปปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ในปี 2021 ถูกมองว่าเป็นการก้าวสู่สโมสรที่มีโอกาสลุ้นแชมป์ยุโรปมากขึ้น แต่การต้องแบ่งเวลาลงสนามกับ เคย์เลอร์ นาบาส ทำให้ช่วงแรกของเขาไม่ราบรื่นนัก อย่างไรก็ตาม ผลงานในยูโร 2020 ที่ช่วยให้อิตาลีคว้าแชมป์และเขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม ยืนยันสถานะว่าเขาคือหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก

เรอัล เบติส จะได้อะไรจากอันโตนี่?

เรอัล เบติส การย้ายทีมของนักเตะค่าตัวสูงจากพรีเมียร์ลีกไปยังลาลีกา มักสร้างกระแสความสนใจอย่างมาก และกรณีของ อันโตนี่ มาทิวส์ ดอส ซานโตส หรือที่แฟนบอลรู้จักกันในชื่อ “อันโตนี่” ก็ไม่ต่างกัน เมื่อเขาได้รับอนุญาตจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดให้ตรวจร่างกายกับ เรอัล เบติส ทีมดังจากสเปน ข่าวนี้ไม่เพียงเป็นเรื่องใหญ่ในมุมของยูไนเต็ด แต่ยังเป็นการตั้งคำถามสำคัญว่า เรอัล เบติสจะได้อะไรจากการเสริมทัพครั้งนี้ อันโตนี่คือผู้เล่นที่ครั้งหนึ่งถูกมองว่าเป็น “เพชรเม็ดงาม” ของฟุตบอลบราซิล การย้ายทีมครั้งนี้อาจเป็นการรีสตาร์ทอาชีพ และยังเป็นโอกาสสำคัญที่เรอัล เบติสจะใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่ยังซ่อนอยู่ในตัวนักเตะ 1. ศักยภาพเชิงเทคนิคและทักษะการเลี้ยงบอล สิ่งแรกที่เบติสจะได้จากอันโตนี่คือ ทักษะการเลี้ยงบอลและการเล่นแบบตัวต่อตัว เขาคือหนึ่งในปีกที่มีความมั่นใจสูงเมื่อต้องเผชิญหน้ากับกองหลัง ความสามารถในการเลี้ยงบอลตัดเข้าในและหาจังหวะยิงเป็นจุดเด่นที่สร้างชื่อให้เขาที่อาแจ็กซ์ และแม้จะไม่เปรี้ยงปร้างในพรีเมียร์ลีก แต่ทักษะพื้นฐานเหล่านี้ยังคงอยู่ครบ ในลาลีกาซึ่งเป็นลีกที่เปิดพื้นที่และเน้นการเล่นเชิงเทคนิคมากกว่า อันโตนี่อาจสามารถดึงศักยภาพนี้ออกมาได้ดีกว่าเดิม การได้ผู้เล่นที่สามารถ “ทำลายเกมรับคู่แข่งด้วยตัวเอง” ถือเป็นของล้ำค่าสำหรับทีมอย่างเรอัล เบติส 1. การเลี้ยงบอลแบบ “บราซิเลียนสไตล์” อันโตนี่เติบโตจากฟุตบอลบราซิลซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความพลิ้วไหวและลีลาการเลี้ยงบอล