Browse By

Category Archives: Sportnews and Football

แอสตัน วิลล่า ภูมิใจลูกทีมหลังคว้าชัยชนะเหนือ เฟเยนูร์ด 2-0

ค่ำคืนในศึกฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลายเป็นช่วงเวลาที่แฟนบอล “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า ทั่วโลกจะไม่มีวันลืม เมื่อทีมรักของพวกเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม บุกไปเอาชนะ เฟเยนูร์ด รอตเทอร์ดาม ถึงถิ่นเดอ ไคป์ ด้วยสกอร์ 2-0 อย่างเหนือชั้น โดยหลังจบเกม อูไน เอเมรี่ กุนซือชาวสเปนออกมาแสดงความภาคภูมิใจในลูกทีมของเขา พร้อมยกย่องว่านี่คือผลงานที่สะท้อนถึง “ความมุ่งมั่น วินัย และการเติบโตของทีม” ที่กำลังเดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จในเวทียุโรปอย่างมั่นคง ชัยชนะในเกมนี้ของแอสตัน วิลล่า ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะโชคช่วย แต่เป็นผลจากการวางแท็กติกที่ยอดเยี่ยมและความทุ่มเทของผู้เล่นทุกคน เอเมรี่จัดทีมในระบบ 4-2-3-1 โดยมี โอลลี่ วัตกินส์ ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า พร้อมด้วยแนวรุกที่เคลื่อนที่ตลอดเวลาอย่าง ลีออน ไบลีย์, มุสซ่า ดิอาบี้ และ จอห์น

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 2- มิดทิลแลนด์ 3

ค่ำคืนของฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบลีกเฟส นัดที่ 2 กลายเป็นหนึ่งในแมตช์สุดมันที่แฟนบอลทั่วโลกพูดถึง เมื่อ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดสนามซิตี้ กราวด์ รับการมาเยือนของ เอฟซี มิดทิลแลนด์ สโมสรแกร่งจากเดนมาร์ก และจบลงด้วยผลการแข่งขันที่แฟนเจ้าถิ่นต้องผิดหวัง เมื่อทีมเยือนโชว์ฟอร์มเด็ดบุกเอาชนะไปได้อย่างสุดมัน 3-2 พร้อมคว้า 3 คะแนนสำคัญกลับบ้านได้อย่างน่าทึ่งในเกมที่เต็มไปด้วยจังหวะพลิกผันและอารมณ์ของฟุตบอลยุโรปอย่างแท้จริง เกมนี้เป็นนัดที่สองของรอบลีกเฟส โดยทั้งสองทีมต่างต้องการชัยชนะเพื่อเพิ่มโอกาสเข้ารอบต่อไป ฟอเรสต์เปิดสนามด้วยความมั่นใจหลังจากเก็บหนึ่งแต้มในเกมแรก ส่วนมิดทิลแลนด์เองก็ต้องการแก้มือหลังพ่ายในบ้านเมื่อสัปดาห์ก่อน เกมนี้จึงเต็มไปด้วยแรงกดดันและความคาดหวังจากทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะฝั่งเจ้าบ้านที่มีแฟนบอลแน่นสนามกว่า 28,000 คน ตั้งแต่นาทีแรกของเกม บรรยากาศในสนามซิตี้ กราวด์ร้อนระอุ เสียงเชียร์จากแฟนเจ้าถิ่นดังกึกก้องทั่วอัฒจันทร์ แต่มิดทิลแลนด์กลับเป็นฝ่ายเริ่มต้นได้ดีกว่า พวกเขาใช้แท็กติกการเพรสซิ่งสูงและการเคลื่อนที่เร็วสร้างความกดดันให้แนวรับของฟอเรสต์ตั้งแต่ต้นเกม ก่อนจะได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วในนาทีที่ 12 จากจังหวะสวนกลับสุดคม คริสเตียน เฟรเดอริกเซ่น เปิดบอลยาวทะลุช่องให้

เฟเยนูร์ด 0 – แอสตัน วิลล่า 2 ฟุตบอล ยูโรปา ลีก

ศึกฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดล่าสุดที่สนามเดอ ไคป์ เมืองรอตเทอร์ดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์ กลายเป็นค่ำคืนแห่งความสุขของแฟนบอลจากเกาะอังกฤษ เมื่อ แอสตัน วิลล่า ทีมดังจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ บุกไปเอาชนะ เฟเยนูร์ด รอตเทอร์ดาม ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยสกอร์ 2-0 พร้อมโชว์ฟอร์มเหนือชั้นในแทบทุกมิติของเกม ชัยชนะนัดนี้ไม่เพียงทำให้วิลล่าขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม แต่ยังตอกย้ำให้เห็นถึงพัฒนาการที่ต่อเนื่องภายใต้การนำของ อูไน เอเมรี่ ผู้จัดการทีมที่กำลังพาทีมกลับสู่เส้นทางแห่งความยิ่งใหญ่ในยุโรปอีกครั้ง ก่อนเกมเริ่ม ทั้งสองทีมต่างมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม เฟเยนูร์ดเจ้าบ้านกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีในลีกดัตช์ และหวังใช้ความได้เปรียบจากเสียงเชียร์ในบ้านเพื่อเก็บสามแต้มสำคัญ ขณะที่แอสตัน วิลล่า ซึ่งเพิ่งถล่มคู่แข่งในพรีเมียร์ลีกมาอย่างต่อเนื่อง ก็มีความกระหายที่จะเก็บชัยชนะนอกบ้านในถ้วยยุโรป เพื่อยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้มาเพียงเพื่อ “เข้าร่วม” แต่ตั้งเป้าหมายไปให้ถึงรอบลึก ๆ ของรายการ เสียงนกหวีดเริ่มเกมดังขึ้นพร้อมบรรยากาศอันดุดันในสนาม แต่เป็นฝั่งทีมเยือนจากอังกฤษที่เริ่มต้นได้เฉียบคมกว่า วิลล่ามีการวางระบบ 4-2-3-1 โดยให้ โอลลี่ วัตกินส์

คาร์โล อันเชล็อตติ เรียก 3 นักเตะจาก เรอัล มาดริด กลับมาติดทัพแซมบ้า

คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียน ซึ่งปัจจุบันรับหน้าที่กุนซือทีมชาติบราซิลอย่างเป็นทางการ ได้ตัดสินใจเรียกนักเตะจากสโมสร เรอัล มาดริด กลับมาติดทีมชาติอีกครั้งถึงสามราย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเกมอุ่นเครื่องและศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ การตัดสินใจดังกล่าวกลายเป็นประเด็นร้อนในวงการฟุตบอลทันที เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกที่อันเชล็อตติในฐานะกุนซือแซมบ้า แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับนักเตะที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีจากการทำงานร่วมกันในสโมสรระดับโลกอย่าง เรอัล มาดริด สามนักเตะที่ถูกเรียกกลับมาครั้งนี้ประกอบด้วย วินิซิอุส จูเนียร์, โรดรีโก้ โกเอส และ เอแดร์ มิลิเตา ซึ่งทั้งสามล้วนเป็นกำลังหลักของราชันชุดขาวในปัจจุบันและมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับอันเชล็อตติ การเรียกพวกเขากลับมาครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความไว้วางใจส่วนตัวของกุนซืออิตาเลียน แต่ยังบ่งบอกถึงแนวทางใหม่ของทีมชาติบราซิลภายใต้ยุคอันเชล็อตติ ที่เน้นความเข้าใจเชิงระบบและการประสานงานของผู้เล่นมากกว่าการพึ่งพาเทคนิคเฉพาะบุคคลเหมือนยุคก่อน ๆ สื่อบราซิลรายงานว่า อันเชล็อตติมีแผนใช้ระบบ 4-3-3 ที่เน้นการเคลื่อนที่อย่างชาญฉลาดและการเพรสซิ่งในแดนบน โดยวินิซิอุส และโรดรีโก้ จะทำหน้าที่เป็นสองปีกตัวรุกที่สามารถสลับตำแหน่งกันได้ตลอดเวลา ส่วนมิลิเตาจะกลับมามีบทบาทสำคัญในแนวรับหลังจากหายจากอาการบาดเจ็บยาว ซึ่งอันเชล็อตติเชื่อว่า ประสบการณ์ของเขาในเกมยุโรปจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับแนวรับของทีมแซมบ้าได้อย่างมาก สำหรับวินิซิอุส การกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งถือเป็นการยืนยันถึงความยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้กับเรอัล มาดริด เขาเป็นนักเตะที่อันเชล็อตติให้ความไว้วางใจสูงสุดในเกมรุก ด้วยความเร็ว ความคล่องตัว

บาเยิร์น มิวนิค วางแผนขยายสัญญากับ แฮร์รี่ เคน เพิ่มเติมจากปี 2027

บาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี ตกเป็นข่าวว่าเตรียมวางแผนขยายสัญญาฉบับใหม่ให้กับ แฮร์รี่ เคน (Harry Kane) กองหน้ากัปตันทีมชาติอังกฤษ หลังเจ้าตัวกลายเป็นหัวใจสำคัญของทีมตั้งแต่ย้ายมาจากท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ เมื่อปี 2023 โดยสัญญาปัจจุบันของเขามีอายุถึงปี 2027 แต่บอร์ดบริหารของเสือใต้ต้องการขยายออกไปอีกอย่างน้อยหนึ่งปี เพื่อให้สอดคล้องกับแผนระยะยาวของสโมสรในยุคใหม่ ภายใต้แนวทางการสร้างทีมที่มีเสถียรภาพทั้งในและนอกสนาม ตั้งแต่เคนย้ายมาสวมเสื้อ “เสือใต้” ด้วยค่าตัวราว 100 ล้านยูโร เขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าการลงทุนครั้งนี้คุ้มค่าอย่างยิ่ง เขาทำประตูได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ฤดูกาลแรก และกลายเป็นผู้เล่นที่มีอัตราการยิงประตูสูงที่สุดในยุโรปในปี 2024 ด้วยสถิติ 44 ประตูจากทุกรายการในฤดูกาลเดียว ตัวเลขดังกล่าวไม่เพียงช่วยให้บาเยิร์นกลับมาท้าทายความสำเร็จในเวทียุโรป แต่ยังทำให้ชื่อของเคนกลับมาอยู่ในลิสต์ผู้ท้าชิงรางวัลบัลลงดอร์อีกครั้ง แหล่งข่าวใกล้ชิดจากสโมสรเปิดเผยว่า การเจรจาขยายสัญญากับเคนจะเริ่มขึ้นภายในสิ้นปีนี้ โดยบาเยิร์นตั้งใจจะปรับปรุงสัญญาเดิมให้สะท้อนถึงผลงานและอิทธิพลของเขาในทีม รวมถึงเพิ่มค่าจ้างและโบนัสพิเศษเพื่อเป็นการตอบแทนผลงานที่โดดเด่น สื่อเยอรมันรายงานว่า เคนอาจได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มจาก 25 ล้านยูโรต่อปี เป็นราว 30 ล้านยูโร ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ได้รับค่าจ้างสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร

ลิโอเนล เมสซี่ ประกาศทัวร์อินเดียเยือน3เมืองปลายปีนี้

ลิโอเนล เมสซี่ กลับมาอีกครั้งในอินเดีย หลังประกาศจัดทัวร์ “GOAT Tour of India 2025” ในเดือนธันวาคมนี้ โดยจะเดินทางไปเยือนหลายเมืองใหญ่ของประเทศ เพื่อร่วมกิจกรรมฟุตบอล, คอนเสิร์ต, มาสเตอร์คลาส และพบปะแฟนคลับอย่างใกล้ชิด ทัวร์นี้นับเป็นการกลับสู่แผ่นดินอินเดียครั้งแรกในรอบ 14 ปีของเจ้าตัว และกลายเป็นข่าวที่ถูกจับตามองจากแฟนฟุตบอลทั่วโลก กำหนดการของทัวร์เริ่มต้นวันที่ 13 ธันวาคม เมสซี่จะออกเดินทางจากโกลกาตา (Kolkata) เป็นเมืองเปิดรายการ ก่อนจะเข้าไปยังเมืองอื่น ๆ ได้แก่ อาห์มาดาบัด (Ahmedabad) มุมไบ (Mumbai) และจบที่นิวเดลี (New Delhi) ในวันที่ 15 ธันวาคม ในแต่ละเมือง เมสซี่จะเข้าร่วมกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งฟุตบอลนิทรรศการ (exhibition games) การสอนทักษะฟุตบอลให้กับเยาวชน มาสเตอร์คลาส

แอสตัน วิลล่า ตกลงคว้าตัว เจดอน ซานโช่

ข่าวใหญ่ที่กลายเป็นกระแสในวงการฟุตบอลอังกฤษและยุโรปคือการที่ แอสตัน วิลล่า สามารถบรรลุข้อตกลงคว้าตัว เจดอน ซานโช่ ปีกตัวรุกชาวอังกฤษที่เคยสร้างชื่อกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การย้ายทีมครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนเส้นทางอาชีพของนักเตะเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการก้าวขึ้นมาเป็นทีมชั้นนำอย่างแท้จริงของวิลล่าภายใต้การนำของ อูไน เอเมรี กุนซือชาวสเปนผู้มากประสบการณ์ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วิลล่าได้พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาไม่ใช่แค่ทีมที่หวังเพียงอยู่รอดในพรีเมียร์ลีก แต่กำลังพัฒนาเพื่อเป็นทีมที่พร้อมลุ้นพื้นที่ยุโรป และการคว้าซานโช่ก็เป็นเครื่องยืนยันที่ชัดเจนถึงความทะเยอทะยานนั้น เหตุผลที่วิลล่าต้องการตัวเจดอน ซานโช่ แม้แอสตัน วิลล่าจะมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่การเพิ่มซานโช่เข้ามาในทีมก็มีหลายเหตุผลที่ทำให้ดีลนี้สมเหตุสมผล โปรไฟล์และเส้นทางอาชีพของเจดอน ซานโช่ ซานโช่เริ่มต้นอาชีพที่อะคาเดมีของวัตฟอร์ด ก่อนจะย้ายเข้าสู่ทีมเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทว่าเขาตัดสินใจออกไปสร้างโอกาสใหม่ที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เขาแจ้งเกิดเต็มตัวในบุนเดสลีกาด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่น จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดของยุโรป การกลับมาอังกฤษกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้จะไม่ประสบความสำเร็จเต็มที่ แต่ก็ทำให้เขาได้เรียนรู้ในลีกที่โหดหินที่สุดในโลก การย้ายมาวิลล่าในครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง บทบาทของซานโช่ในแท็กติกของอูไน เอเมรี เอเมรี เป็นกุนซือที่มีแนวทางการเล่นชัดเจน เน้นเกมรับที่รัดกุมและการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกที่รวดเร็ว

ใครคือคนที่เหมาะสมจะมารับตำแหน่งกุนซือ เลเวอร์คูเซ่น คนต่อไป?

การปลดกุนซืออย่าง เอริค เทน ฮาก ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น สโมสรที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและความทะเยอทะยานในเวทีบุนเดสลีกาและยุโรป คำถามใหญ่ที่ตามมาคือ “ใครคือคนที่จะเหมาะสมเข้ามารับตำแหน่งกุนซือคนต่อไป?” เพราะการเลือกผู้จัดการทีมไม่ใช่แค่การหาคนที่มีชื่อเสียง แต่ต้องเป็นผู้ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งแท็กติก ความสัมพันธ์กับนักเตะ และการพัฒนาสโมสรในระยะยาว 1. แนวคิดการเลือกกุนซือใหม่ เลเวอร์คูเซ่น ต้องมองหากุนซือที่ไม่เพียงแค่มีฝีมือ แต่ต้องมีคุณสมบัติดังนี้ นิยาม “ตัวตนฟุตบอล” ก่อนเลือกคน จุดเริ่มต้นไม่ใช่ “ใครว่างอยู่” แต่คือ “เราอยากเป็นทีมแบบไหน” นิยามให้ชัดก่อน แล้วจึงหา “โค้ชที่พาแนวคิดนี้ให้เกิดขึ้นได้จริง” แทนการไล่ตามชื่อชั้นเพียงอย่างเดียว พิมพ์เขียวแท็กติกที่ต่อยอดทันที กุนซือใหม่ควรถอดแบบได้ว่าพรุ่งนี้ลงซ้อมเขาจะทำอะไร สอดรับโครงสร้างสโมสรและผอ.กีฬา ความสำเร็จในเยอรมนีเกิดจาก “ระบบ” 2. ตัวเลือกที่มีชื่อเสียงในยุโรป 2.1 ซาบี้ อลอนโซ่ หนึ่งในชื่อที่ถูกพูดถึงบ่อยที่สุดคือ ซาบี้ อลอนโซ่ กุนซือหนุ่มไฟแรงที่พาเลเวอร์คูเซ่นประสบความสำเร็จในช่วงก่อนหน้านี้ และสร้างปรัชญาการเล่นที่สวยงาม

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ปิดดีล โยอัน วิสซ่า จากเบรนท์ฟอร์ด 55 ล้านปอนด์

หนึ่งในดีลใหญ่ที่สร้างกระแสได้มากในช่วงนี้คือการที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สามารถตกลงค่าตัว โยอัน วิสซ่า ศูนย์หน้าทีมชาติดีอาร์คองโกจาก เบรนท์ฟอร์ด ได้เป็นที่เรียบร้อย ตัวเลขปิดที่ 55 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าสูงสำหรับนักเตะที่ไม่ใช่สตาร์ระดับโลก แต่สะท้อนถึงศักยภาพและความสำคัญที่เขาจะเข้ามามีบทบาทกับ “สาลิกาดง” ดีลนี้ไม่ได้เป็นเพียงการซื้อผู้เล่นมาเพิ่ม แต่ยังสะท้อนถึงความทะเยอทะยานของนิวคาสเซิ่ลภายใต้เจ้าของใหม่ ที่ต้องการพัฒนาทีมอย่างต่อเนื่องเพื่อท้าทายพื้นที่ยุโรปและลุ้นความสำเร็จในอนาคต โปรไฟล์ของโยอัน วิสซ่า โยอัน วิสซ่า เกิดที่คองโกและย้ายมาเล่นฟุตบอลอาชีพในยุโรปตั้งแต่อายุน้อย เขาสร้างชื่อกับลอริยองต์ในลีกเอิง ก่อนที่เบรนท์ฟอร์ดจะดึงตัวมาร่วมทีมในปี 2021 จุดเด่นของเขาคือ ผลงานกับเบรนท์ฟอร์ดในพรีเมียร์ลีกทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับการยอมรับ แม้จะไม่ใช่ดาวซัลโวสูงสุด แต่ก็มีบทบาทสำคัญต่อการทำเกมรุกของทีม ทำไม นิวคาสเซิ่ล ถึงเลือกวิสซ่า? การเสริมกองหน้าคือโจทย์ใหญ่ของนิวคาสเซิ่ล เนื่องจาก ทำไมนิวคาสเซิ่ล ถึงเลือกวิสซ่า? บทนำ การย้ายทีมในพรีเมียร์ลีกอังกฤษมักมีเบื้องหลังที่ซ่อนอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแท็กติก แผนการสร้างทีม หรือแม้กระทั่งทิศทางธุรกิจของสโมสร และหนึ่งในดีลที่น่าสนใจที่สุดในตลาดล่าสุดคือการที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บรรลุข้อตกลงเรื่องการคว้าตัว จานลุยจิ ดอนนารุมม่า

ตลาดซื้อขาย ดอนนารุมม่า ในยุโรปไม่เคยขาดเรื่องราวที่สร้างความตื่นเต้น และหนึ่งในดีลที่กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่สุดในช่วงนี้คือการที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บรรลุข้อตกลงกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ในการคว้าตัว จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูทีมชาติอิตาลี ดีลนี้ไม่เพียงเป็นการเสริมทัพของทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์และอนาคตของทั้งสองสโมสร ดอนนารุมม่า: ผู้รักษาประตูที่เติบโตจากความคาดหวัง ดอนนารุมม่าถูกขนานนามว่าเป็น “เทพบุตรแห่งประตู” มาตั้งแต่ยังอายุเพียง 16 ปี เมื่อเขาประเดิมสนามให้เอซี มิลาน และกลายเป็นตัวหลักทันที ด้วยส่วนสูงเกือบสองเมตร ปฏิกิริยาอันยอดเยี่ยม และการเซฟที่เหนือชั้น เขาคือผู้สืบทอดตำแหน่งผู้รักษาประตูระดับตำนานของอิตาลีอย่าง จานลุยจิ บุฟฟ่อน การย้ายไปปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ในปี 2021 ถูกมองว่าเป็นการก้าวสู่สโมสรที่มีโอกาสลุ้นแชมป์ยุโรปมากขึ้น แต่การต้องแบ่งเวลาลงสนามกับ เคย์เลอร์ นาบาส ทำให้ช่วงแรกของเขาไม่ราบรื่นนัก อย่างไรก็ตาม ผลงานในยูโร 2020 ที่ช่วยให้อิตาลีคว้าแชมป์และเขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม ยืนยันสถานะว่าเขาคือหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก